คำว่า Hermeneutics หมายถึงระเบียบวิธีที่ใช้ตีความข้อเขียน โดยเฉพาะการตีความข้อเขียนในคัมภีร์ไบเบิล ตีความวรรณกรรมและงานเขียนทางปรัชญา เป็นวิธีการสำรวจตรวจสอบด้วยการสังเกตอย่างละเอียด และเป็นการทำความเข้าใจเรื่องราวของมนุษย์ด้วยสติปัญญา นักวิชาการที่ใช้ระเบียบวิธีนี้ ได้แก่ นักประวัติศาสตร์ศิลป์ นักวิจารณ์วรรณคดี นักประวัติศาสตร์ศาสนา นักสังคมวิทยา เทววิทยา รวมทั้งนักมานุษยวิทยาด้วย
ผู้เขียน:
ดร.นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ
หัวเรื่องอิสระ:
การตีความข้อเขียน
ประวัติศาสตร์นิยม (Historicism) หมายถึงวิธีคิดที่มองและสนใจเหตุการณ์เฉพาะในช่วงเวลาอดีต ในพื้นที่บางแห่ง ในวัฒนธรรมและสังคมบางแห่ง ความสนใจลักษณะเฉพาะที่เกิดขึ้นนี้นำไปสู่การมองวัฒนธรรมที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยมองว่าวัฒนธรรมแต่ละแห่งมีความเป็นมาไม่เหมือนกัน โจฮันน์ กอตไฟรด์ วอน เฮอร์เดอร์คือผู้ที่นำแนวคิดประวัติศาสตร์มาศึกษามนุษย์ เขากล่าวว่า ประวัติศาสตร์ไม่ใช่สิ่งสากล เหตุการณ์แต่ละยุคสมัยเกิดขึ้นและจบไปไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อื่น
ผู้เขียน:
ดร.นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ
หัวเรื่องอิสระ:
ประวัติศาสตร์นิยม
การไร้บ้าน หมายถึงสภาพของคนที่ไร้ที่อยู่ หรือผู้ที่ไม่สามารถหาที่อยู่เป็นของตัวเองได้ ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากหลายปัจจัย เช่น การถูกทอดทิ้ง การหนีออกจากบ้าน การไร้ที่พึ่ง ความยากจน เป็นต้น ผู้ที่ไร้ที่อยู่อาศัยจึงร่อนเร่พเนจรไปตามที่ต่างๆ ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ที่แน่นอน รูปแบบของการไม่มีบ้าน อาจมี 2 ลักษณะคือ การอยู่อาศัยตามท้องถนน และการอาศัยอยู่ในแหล่งเสื่อมโทรมในย่านอุตสาหกรรม แต่การอยู่อาศัยแบบย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ เช่น ในสังคมเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ของชาวยิปซี จะไม่ถือว่าเป็นการไร้บ้านเพราะเป็นรูปแบบทางวัฒนธรรมของคนกลุ่มนี้
ผู้เขียน:
ดร.นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ
หัวเรื่องอิสระ:
การไร้บ้าน
มานุษยวิทยาสนใจศึกษาเกียรติยศและความอายในช่วงทศวรรษ 1960 โดยเข้าไปศึกษาในเขตเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นสังคมที่มีการแบ่งแยกเพศโดยมีศาสนาเป็นข้อกำหนด โดยเฉพาะศาสนาคริสต์และอิสลาม เรื่องเพศจะเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจที่สัมพันธ์กับบทบาทชายหญิง ซึ่งผู้ชายจะถูกคาดหวังว่าต้องแข็งแกร่งอดทน ผู้หญิงต้องนุ่มนวลอ่อนหวาน ในวัฒนธรรมเมดิเตอร์เรเนียนมองว่าเกียรติยศคือระบบคุณค่าทางสังคม บุคคลจะต้องมีค่าในตัวเอง ส่วนความอายจะบ่งบอกถึงความล้มเหลวในคุณค่าของตัวเอง
ผู้เขียน:
ดร.นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ
หัวเรื่องอิสระ:
เกียรติยศและความอาย
ความเป็นสากลของมนุษย์ (Human Universals) หมายถึง ลักษณะที่มนุษย์มีร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ใด ซึ่งโดนัลด์ บราวน์ (1991) นักมานุษยวิทยาอเมริกันได้แยกประเด็นความเป็นสากลของมนุษย์เป็น 67 ประเด็น ประเด็นที่สำคัญได้แก่ การรู้จักทำอาหาร สร้างที่อยู่อาศัย สร้างชุมชน สร้างระบบการปกครอง การสื่อสารด้วยภาษา ระบบเครือญาติ คติความเชื่อ การสร้างกฎระเบียบทางสังคม การสร้างเครื่องมือเครื่องใช้ และการแสดงออกทางศิลปะและดนตรี เป็นต้น
ผู้เขียน:
ดร.นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ
หัวเรื่องอิสระ:
ความเป็นสากลของมนุษย์
มานุษยวิทยาแนวมนุษยนิยม (Humanistic Anthropology) หมายถึง การศึกษาระบบคุณค่าและความหมายที่มนุษย์สร้างขึ้นในรูปแบบต่างๆ เช่น งานวรรณกรรม งานศิลปะ งานสร้างสรรค์ต่างๆ อย่างไรก็ตามแนวคิดเกี่ยวกับมนุษยนิยม (humanism) คือรากฐานของการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์ เพราะแนวคิดนี้วางประสบการณ์ของมนุษย์ไว้ตรงกลางและปฏิเสธอำนาจที่มองไม่เห็น หรืออำนาจเหนือธรรมชาติ humanism จึงเชื่อมั่นในการกระทำของมนุษย์เหนือสิ่งอื่นใด หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นความศรัทธาในตัวมนุษย์ การให้ความสำคัญกับมนุษย์นี้อาจนำไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาทางมานุษยวิทยา จนเกิดแนวคิดเรื่อง humanistic anthropology ขึ้น
ผู้เขียน:
ดร.นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ
หัวเรื่องอิสระ:
มานุษยวิทยาแนวมนุษยนิยม
Hauntology เป็นแนวคิดปรัชญาของประวัติศาสตร์ที่เสนอโดย Jacques Derrida ในหนังสือเรื่อง Specters of Marx ซึ่งอธิบายว่าแนวคิดของมาร์กซ์เกี่ยวกับลัทธิและอุดมการณ์คอมมิวนิสต์กำลังหลอกหลอนสังคมยุโรป Derrida วิจารณ์ว่าหลังการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินและการเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากของมนุษย์ แนวคิดของมาร์กซ์กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง
ผู้เขียน:
ดร.นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ
หัวเรื่องอิสระ:
ปรัชญาประวัติศาสตร์,
ภาพในอดีตที่หลอกหลอน,
ความทรงจำ,
ความพ้อฝัน,
ความไร้ระเบียบ
โฮโลซีน (Holocene) คือชื่อสมัย (epoch) ทางธรณีวิทยา เริ่มตั้งแต่ 11,700 ปีมาแล้วจนถึงปัจจุบัน โดยโฮโลซีนเป็นสมัยต่อเนื่องมาจากสมัยไพลสโตซีน (Pleistocene) ทั้งสองสมัยอยู่ในยุคควอเทอร์นารี (Quaternary Period; 2.58 ล้านปีมาแล้ว - ปัจจุบัน) ของมหายุคซีโนโซอิก (Cenozoic Era; 66 ล้านปีมาแล้ว - ปัจจุบัน) (Walker et al. 2018; Cohen et al. 2020)
ผู้เขียน:
ตรงใจ หุตางกูร และนัทกฤษ ยอดราช
หัวเรื่องอิสระ: